วันพฤหัสบดีที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

Home work 3


การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต


Dial up/ISDN คืออะไร
         บริการเชื่อมต่อแบบหมุนโทรศัพท์ (Dial up/ISDN) บริการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต สำหรับองค์กรที่มีการใช้งานไม่มาก หรือไม่ต้องการการเชื่อมต่อตลอด 24 ชั่วโมง และเหมาะอย่างยิ่งสำหรับหน่วยงานที่มีงบประมาณจำกัด เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายต่ำ ไม่ต้องมีผู้เชี่ยวชาญมาคอยดูแลรักษาระบบ เพียงท่านหมุนโทรศัพท์ (Dial Up) ผ่านโมเด็ม มายังจุดให้บริการของสบทร. ที่มีอยู่ 76 จังหวัดทั่วประเทศ ก็จะสามารถใช้บริการอินเตอร์เน็ต และเชื่อมต่อไปยังหน่วยงานย่อยต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย สื่อสารข้อมูลด้วยความเร็วสูงถึง 56 - 128 kbps


ISDN
              ISDN (Integrated Service Digital Network) คือบริการสื่อสารโทรคมนาคมระบบดิจิตอลที่สามารถรับส่งข้อมูลทั้งในระบบภาพ เสียง และข้อมูล ด้วยความเร็ว 128 Kbps ขึ้นไป ข้อดีของการใช้ ISDN คือความน่าเชื่อถือในการรับส่งข้อมูล อุปกรณ์สื่อสารของผู้ใช้บริการไม่ต้องมีการแปลงสัญญาณ (Conversion) ทำให้ความเพี้ยนของสัญญาณมีน้อยมาก ตลอดจนสิ่งรบกวน (Noise) ก็จะลดลงด้วย ทำให้ข้อมูลข่าวสารที่รับส่งในโครงข่าย ISDN มีความถูกต้องไว้ใจได้สูงกว่าแบบเดิม
         ลักษณะการใช้งานเหมือนกับการหมุนโทรศัพท์ธรรมดาปกติ คือเสียครั้งละ 3 บาท ก่อนจะใช้คุณต้องหมุนโทรศัพท์ไปที่เบอร์ของ ISP ที่เป็น ISDN ด้วยจึงจะได้ความเร็วของ ISDN ตามที่กำหนด

รูปแบบการใช้บริการ ISDN มี 2 แบบ คือ
                 1. แบบ BRI (Basic Rate Interface) หรือทางองค์การโทรศัพท์เขาเรียกว่า BAI (Basic Access Interface) เป็นรูปแบบการให้บริการด้วยคู่สายโทรศัพท์ธรรมดาจากชุมสาย ISDN จนถึงอุปกรณ์ปลายทาง คู่สายเพียง 1 คู่สาย สามารถที่จะรองรับอุปกรณ์ปลายทางชนิดต่าง ๆ ได้สูงสูด 8 อุปกรณ์และสามารถใช้งานได้ 2 อุปกรณ์พร้อมกันในเวลาเดียวกัน เนื่องจากภายในคู่สาย ISDN แบบ BRI นี้จะประกอบไปด้วยช่องสัญญาณ 2 ช่องโดยแต่ละช่องสามารถให้บริการด้วยความเร็ว 64 Kbps ทำให้ได้ความเร็วรวมสูงสุดถึง 128 Kbps บริการนี้เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง
                 2. แบบ PRI (Primary Rate Interface) เป็นรูปแบบการให้บริการโดยการวางเคเบิลแบบไฟเบอร์ออฟติคไปยังตู้สาขาแบบ ISDN (ISDN PABX) ของผู้เช่าเคเบิลเส้นหนึ่งจะช่องสัญญาณอยู่ 30 ช่อง แต่ละช่องให้บริการด้วยความเร็ว 64 Kbps ซึ่งแต่ละช่องสามารถที่จะรวมสัญญาณเข้าด้วยกันทำให้ได้ความเร็วรวมสูงสุด คือ 2.048 Mbps บริการนี้เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดใหญ่

รูปแสดงการเชื่อมต่อเครือข่ายของบริการ Dial up/ISDN
<!--[if !vml]-->http://www.zabzaa.com/links/images/Dialup.jpg<!--[endif]-->



DSL คืออะไร
         DSL ย่อมาจาก Digital Subscriber Line หมายถึงเทคโนโลยีโมเด็ม ที่ใช้คู่สายทองแดงธรรมดา ปรับให้กลายเป็นสื่อสัญญาณดิจิตอลความเร็วสูง โดยมีการเข้ารหัสสัญญาณข้อมูล (Modulation) ในย่านความถี่ที่สูงกว่าการใช้งานโทรศัพท์โดยทั่วไป ทำให้สามารถรับ-ส่งข้อมูลได้ในขณะที่ใช้งานโทรศัพท์ สำหรับเทคโนโลยีในตระกูล DSL อยู่หลายประเภท เช่น
  • ADSL: Asymmetric Digital Subscriber Line
  • HDSL: High bit rate Digital Subscriber Line
  • IDSL: ISDN Digital Subscriber Line
  • RADSL: Rate Adaptive Digital Subscriber Line
  • SDSL: Symmetric Digital Subscriber Line
  • VDSL: Very high bit rate Digital Subscriber Line
ซึ่งแต่ละเทคโนโลยี DSL จะมีความสามารถในการรับ-ส่งข้อมูลแตกต่างกันออกไป โดยมีความแตกต่างกันในลักษณะดังนี้
<!--[if !supportLists]-->1.     <!--[endif]-->ความเร็วในการรับ (down) ส่ง (up) ข้อมูล
<!--[if !supportLists]-->2.     <!--[endif]-->Mode การรับ-ส่งข้อมูล
เพื่อความเหมาะสมในการใช้งานจริง การเลือกเทคโนโลยีในการรับ-ส่งข้อมูลจึงเป็นสิ่งจำเป็น ตัวอย่างเช่น การรับ-ส่งข้อมูลของบริษัทระหว่างสาขา จะมีการรับ และส่งข้อมูลในการอัตราที่ต้องการความเร็วพอๆ กัน แต่สำหรับผู้ใช้ตามบ้านมักจะต้องการการรับข้อมูลในการอัตราความเร็วมากกว่าการส่งข้อมูล
<!--[if !supportLists]-->3.     <!--[endif]-->ระยะทางในการรับ-ส่งข้อมูล
ซึ่งจะมีผลโดยตรงกับความเร็วในการส่งข้อมูล เช่น เทคโนโลยี VDSL สามารถส่งข้อมูลด้วยความเร็วถึง 52 Mbps แต่จำกัดในเรื่องระยะทางเพียง 1 km เท่านั้น แต่สำหรับ ADSL สามารถส่งข้อมูลได้เร็วเพียง 8 Mbps แต่สามารถส่งสัญญาณได้ไกลถึง 5 km เป็นต้น
<!--[if !supportLists]-->4.     <!--[endif]-->จำนวนสายที่ใช้
ตัวอย่างช่น เทคโนโลยี HDSL จะใช้สายในการรับ-ส่งข้อมูลถึง 4 สาย หรือ 2 คู่ แต่เทคโนโลยีอื่นๆ ได้พัฒนาให้ใช้สายเพียง 1 คู่หรือ 2 สายเท่านั้น
<!--[if !supportLists]-->5.     <!--[endif]-->ความสามารถในการใช้สายโทรศัพท์ระหว่างการรับ-ส่งข้อมูล
เทคโนโลยีที่สามารถใช้งานโทรศัพท์ได้ระหว่างการใช้งานอินเตอร์เน็ตคือ เทคโนโลยี ADSL และ VDSL
ADSL คือหนึ่งในเทคโนโลยีที่นำมาใช้งานอินเตอร์เน็ตตามบ้าน และองค์กรขนาดย่อม ซึ่งเป็นที่นิยมใช้งานมากที่สุด เนื่องมาจากคุณภาพและราคาที่ค่อนข้างเหมาะสมกับความต้องการ

ตัวอย่างการประยุกต์เทคโนโลยี DSL ไปใช้งาน
  • Broadcast Audio & TV
    ดูรายการถ่ายทอดสดผ่าน TV, คอมพิวเตอร์
  • Distance Learning
    การเรียนการสอนผ่านอินเตอร์เน็ต แบบ Interactive
  • Interactive Network
    เล่นเกมส์ online
  • Online Shopping
    Shopping แบบ online
  • VDO Conference
    การประชุมทางไกล การอบรมทางไกล
  • Video & Music on Demand
    ดูหนัง ฟังเพลงแบบ online สามารถเลือกได้ตามใจคุณ
  • VPN : Virtual Private Network
    การรับส่ง ติดต่อข้อมูลระหว่างสาขา
cable
สายเคเบิล


                หมายถึง สายที่เชื่อมต่อระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์กับบริภัณฑ์รอบข้างต่าง ๆ (peripheral equipment ) เช่น สายที่เชื่อมต่อระหว่างจอภาพและหน่วยประมวลผลกลาง หรือระหว่างเครื่องพิมพ์กับหน่วยประมวลผลกลาง ช่องสำหรับเชื่อมต่อนี้ มักจะอยู่ด้านหลังของเครื่องคอมพิวเตอร์ และมีลักษณะเป็นรูที่จะมีขาเสียบเข้าไปได้เหมือนเต้าเสียบ




Satellite คืออะไร
Satellite



              ดาวเทียมที่ติดตั้งเครื่องรับสั­­าณจากระยะไกล (Remote Sensor) เพื่อสำรวจพื้นโลกเรียกว่า ดาวเทียมสำรวจโลก หรือดาวเทียมสำรวจทัรพยากร ซึ่งดาวเทียมประเภทนี้จะมีคุณลักษณะพิเศษเฉพาะ แตกต่างกันออกไปตามลักษณะวงโคจร ระดับความสูงและลักษณะเครื่องรับสั­­าณ ซึ่งลักษณะต่าง ๆ เหล่านี้จะแตกต่าง จากดาวเทียมสี่อสารโดยทั่ว ๆ ระบบดาวเทียมสำรวจจากระยะไกล ประกอบด้วย ระบบหลัก 3 ระบบที่สำคั­ดังนี้

1. ระบบติดตามและควบคุม (Control System) ทำหน้าที่คอยหาวงโคจรของดาวเทียมควบคุมวงโคจร ดำเนินกรรมวิธีโปรแกรมต่าง ๆ ให้กับดาวเทียม
2. ระบบควบคุมการปฏิบัติงาน (Operating System) ทำหน้าที่วางแผนการปฏิบัติงานของ ดาวเทียม ประเมินผลข้อมูลจากการสำรวจฐานข้อมูล
3. ระบบข้อมูล (Data System) ทำหน้าที่รับสั­­าณ การบันทึกสั­­าณ กรรมวิธีข้อมูล การเก็บและ แจกจ่ายข้อมูลที่ได้จากการสำรวจ


ดาวเทียมสำรวจโลกมีวงโคจรในลักษณะสัมพันธ์กับดวงอาทิตย์ (Sunsynchronous Satellite) คือ วงโคจรที่หมุนเวียนครบรอบระนาบวงโคจรใน 1 ปี เช่นเดียวกับการปรากฎของดวงอาทิตย์หนึ่งรอบในแต่ ละปีกล่าวคือ ดาวเทียมโคจรรอบโลกผ่านเส้นศูนย์สูตรในแนวเหนือใต้ในระดับความสูงไม่มากนักโดยเฉลี่ย

Wireless คือ
Wireless เป็นเทคโนโลยีที่ใช้ในการส่งภาพ เสียง และข้อมูล จากอีกที่หนึ่งไปอีกทึ่หนึ่งโดยไม่มใช้สายไฟ แต่ใช้คลื่นวิทยุหรืออาจใช้คลื่น Infrared เป็นตัวกลางในการสื่อสาร

GPRS 



             GPRS หรือ General Packet Radio Service เป็นบริการส่งข้อมูลแบบแพคเกตบนโทรศัพท์มือถือระบบ GSM ซึ่งนอกจากจะรวดเร็วแล้วยังเป็นการประหยัดต่อผู้ใช้ และเป็นการเพิ่มมาตรฐานระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ GSM ให้มีความสามารถส่งข้อมูลผ่านดาต้าแพคเกตได้อย่างต่อเนื่อง เช่น การดูข้อมูลในอินเทอร์เน็ต และการรับส่งอีเมล์ เป็นต้น GPRS Class เป็นคุณสมบัติเฉพาะของระดับความเร็วในการรับ-ส่งข้อมูลที่สามารถทำได้ โดยจะมีอยู่ทั้งหมด 12 Class (เรียงตามลำดับตัวเลข 1 ถึง 12) หากตัวเลข Class ยิ่งมาก ความเร็วในการรับ-ส่งข้อมูลจะยิ่งมากขึ้น จำนวนของ Time-Slot โดยความถี่ของระบบ GSM จะมีทั้งหมด 8 Time-Slot ซึ่งในการโทรเข้าโทรออกปกติจะใช้ 1 Time-Slot (ต่อ 1 หมายเลขโทรศัพท์) ซึ่งการรับข้อมูล (Downlink) และการส่งข้อมูล (Uplink) จะเขียนอยู่ในรูปของตัวเลขที่นำมาบวกกัน เช่น 3+1 หรือ 4+2 (Downlink+Uplink) ซึ่งชุดบวกลบจะแสดงข้อมูลรับ (Downlink) และข้อมูลส่ง (Uplink) 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น